ประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลและความเป็นส่วนตัว
ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (“พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) ผู้ที่ยื่นรายงานซึ่งมีข้อมูลส่วนบุคคลจะต้องได้รับการแจ้งให้ทราบถึงแนวปฏิบัติในการเก็บรวบรวม ใช้ และจัดเก็บข้อมูล รวมถึงต้องให้ความยินยอมต่อข้อกำหนดและเงื่อนไขในการใช้บริการนี้
ท่านจำเป็นต้องอ่านและยอมรับเงื่อนไขที่ระบุไว้ด้านล่าง หากท่านไม่ยินยอม เราจะไม่สามารถรับข้อมูลผ่านระบบนี้ได้
-
ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมและประมวลผล
บริการนี้จะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้เมื่อทำการรายงาน ได้แก่:
- ชื่อและรายละเอียดการติดต่อของท่าน (ยกเว้นกรณีรายงานโดยไม่เปิดเผยตัวตนอย่างสมบูรณ์) รวมถึงสถานะการจ้างงานของท่านในองค์กร
- ชื่อและข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ของบุคคลที่ท่านกล่าวถึงในรายงาน (เช่น หน้าที่การงาน และรายละเอียดการติดต่อ)
- คำบรรยายพฤติกรรมหรือการกระทำที่ถูกกล่าวหาว่าผิด รวมถึงรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
หมายเหตุ: กฎหมายในบางประเทศไม่อนุญาตให้รายงานโดยไม่เปิดเผยตัวตน อย่างไรก็ตาม ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูกเก็บเป็นความลับและจะเปิดเผยเฉพาะตามที่ระบุไว้ในประกาศนี้
-
ตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูล
ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ในการรายงานจะถูกนำมาใช้เพื่อ:
- รักษาความโปร่งใสและความถูกต้องขององค์กรโดยการตรวจสอบ ป้องกัน และดำเนินการต่อข้อกล่าวหาที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ทุจริต หรือการละเมิดนโยบายและกฎหมาย
- อำนวยความสะดวกในการสอบสวนและดำเนินการแก้ไขหรือทางวินัยตามความจำเป็น
- ปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการรายงานการกระทำผิด (whistleblowing) และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
- อำนวยความสะดวกในการติดต่อสื่อสารเพิ่มเติมกับท่านเพื่อขอข้อมูลหรือคำชี้แจงเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายงาน
ฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูล:
- ความยินยอมของท่านในขณะส่งรายงาน
- ภาระหน้าที่ทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
- ประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interest) เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัย โปร่งใส และเป็นไปตามกฎหมาย
-
วิธีการประมวลผลและการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
Integrity มีพันธมิตร/บริษัทในเครือในหลายประเทศ (อินโดนีเซีย มาเลเซีย และประเทศไทย) โดยมีสำนักงานใหญ่ในอินโดนีเซีย เพื่อการทำงานร่วมกันระหว่างทีม ข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ท่านให้จะถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูลที่ตั้งอยู่บนเซิร์ฟเวอร์ในอินโดนีเซีย และดำเนินการโดย Integrity Indonesia ซึ่งมุ่งมั่นในการรักษามาตรฐานความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยที่เข้มงวด
หากท่านอยู่นอกประเทศอินโดนีเซีย การส่งรายงานนี้ถือเป็นการให้ความยินยอมในการโอนข้อมูลส่วนบุคคลข้ามพรมแดนไปยังอินโดนีเซียเพื่อวัตถุประสงค์ที่ได้ระบุไว้ข้างต้น
-
สิทธิของเจ้าของข้อมูล
ท่านอาจมีสิทธิที่จะ:
- ขอเข้าถึงสำเนารายงานและข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บไว้
- ขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ถูกต้องหรือไม่สมบูรณ์
- ถอนความยินยอมและขอลบข้อมูลส่วนบุคคล โดยขึ้นอยู่กับข้อกำหนดทางกฎหมายและความจำเป็นในการสอบสวน
ท่านสามารถใช้สิทธิดังกล่าวได้โดยติดต่อผ่านช่องทางที่ระบุไว้ในหน้านี้. หมายเหตุ: สิทธิบางประการอาจถูกจำกัดในระหว่างการสอบสวนเพื่อรักษาความถูกต้องของกระบวนการ.
-
ระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูล
ข้อมูลส่วนบุคคลจะถูกเก็บรักษาไว้ตราบเท่าที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ระบุในประกาศนี้ ปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมาย หรือเพื่อการแก้ไขข้อพิพาท หลังจากนั้น ข้อมูลส่วนบุคคลจะถูกลบหรือทำให้ไม่สามารถระบุตัวตนได้อย่างปลอดภัย
-
มาตรการรักษาความปลอดภัย
มีการนำมาตรการทางเทคนิคและองค์กรที่เหมาะสมมาใช้เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากการเข้าถึง สูญหาย การใช้ในทางที่ผิด การแก้ไข หรือการเปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาต
-
การเปิดเผยข้อมูล
ข้อมูลส่วนบุคคลจะถูกเข้าถึงได้เฉพาะโดย:
- บุคลากรที่ได้รับอนุญาตในองค์กรของท่านซึ่งมีหน้าที่ในการจัดการรายงานการแจ้งเบาะแส (whistleblowing)
- บุคลากรของ Integrity Thailand และ/หรือบุคลากรของ Integrity Indonesia ที่ให้การสนับสนุนด้านเทคนิคและการบริหารจัดการระบบ WBS
- หน่วยงานกำกับดูแลหรือเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย หากกฎหมายกำหนด
จำเป็นต้องกรอกข้อมูล